เล่าทั้งน้ำตา แม่เล่านาทีลูกชาย 8 ขวบ โดนพ่อเลี้ยงโหดทำร้ายจนเสียชีวิต เผยถูกทุบตีเพราะไม่ยอมอ่านหนังสือ ถาม ทำไมเห็นลูกโดนทำร้ายแล้วไม่ช่วย ตอบเสียงสั่นเครือเพราะกลัวโดนซ้อม จากกรณีข่าวสุดสลดที่พ่อเลี้ยงโหด นายวิรัช แซ่เฮ้ง อายุ 31 ปี ดื่มสุราจนเมามายแล้วทำร้ายลูกเลี้ยงวัย 8 ขวบ ด้วยการทารุณกรรมจนเสียชีวิต โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ทาวน์เฮาส์แห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาล ต.หนองแค จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุดวันนี้ (21 ต.ค.64) รายงานจากประเด็นเด็ด 7สี ระบุ
ผู้เป็นแม่ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญไปให้ปากคำถึงสาเหตุที่ไม่ช่วยลูกทั้ง ๆ ที่เห็นลูกถูกทำร้าย โดยผู้เป็นแม่ วัย 33 ปี กล่าวว่า สาเหตุที่ลูกชายถูกสามีใหม่ทุบตีเพราะ ไม่ยอมอ่านหนังสือเรียน ส่วนที่เห็นลูกถูกทำร้ายแล้วไม่เข้าช่วยเพราะตนเองกลัวถูกทำร้าย
ขณะที่เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กัน เล่าว่า ครอบครัวที่เกิดเหตุมาพักอยู่ได้ไม่นาน ปกติจะปิดบ้านเงียบไม่ออกมาสุงสิงกับใคร และมักจะขังลูกไว้ขณะที่ผู้เป็นพ่อและแม่ออกไปทำงาน ด้านรายงานจากเว็บไซต์ข่าว อีจัน ระบุ ผู้เป็นแม่พบเจอกับพ่อเลี้ยงรายนี้และอาศัยอยู่กินกันมาได้ 1 ปีเเล้ว (ด.ช.วัย 8 ขวบ ผู้ตายและพี่สาว อายุ 16 ปี ย้ายมาอยู่กับแม่และพ่อเลี้ยง 2 เดือนที่ผ่านมา) แรกๆ พ่อเลี้ยงจะใช้ไม้ตีเวลาที่ลูกอ่านหนังสือไม่ออก ถ้าสะกดคำไม่ได้ก็จะถูกเฆี่ยนตีเเละบังคับให้กินน้ำปัสสาวะอยู่บ่อยครั้ง
ช่วงหลังๆ เริ่มแรงขึ้น ตอนแรกเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดเหตุการณ์เเบบนี้เกิดขึ้นกับลูก ขณะเดียวกันผู้เป็นแม่ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “ขออโหสิกรรมลูกที่ทำให้ลูกต้องเป็นอย่างนี้ จะไม่เอาความเดือดร้อนมาให้ครอบครัวเเล้ว”
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบตามร่างกายของ เด็กชายวัย 8 ขวบที่เสียชีวิต ตามร่างกายบริเวณข้อมือขวา และซ้ายมีร่องรอยการถูกมัดเป็นแผลลึก คาดว่าน่าจะถูกมัดแล้วโยงด้วยเชือกกับขื่อภายในบ้าน แล้วตีด้วยสายไฟ แขนขวามีแผลทั่วแขน แผ่นหลังถูกตีจนเขียวช้ำอย่างเห็นได้ชัดไปทั่วแผ่นหลัง หัวเข่าซ้ายบวม
ตำรวจเตรียมดำเนินคดีสาวมือ ตัดเชือกช่างทาสี หลักฐานมัดแน่น ล่าสุดญาติมารับออกจากคอนโดที่เกิดเหตุ ด้านช่างยอมรับยังรู้สึกกลัวหนัก จากกรณี หนุ่มช่างทาสี 2 คน ถูกมือดีย่องตัดเชือกขณะกำลังโรยตัวปฏิบัติหน้าที่บนหน้าต่างอาคารสูง โดยร่างคาอยู่ ชั้น 26 ของตัวคอนโดชื่อดัง ย่านปากเกร็ด ซึ่งมีความสูง 32 ชั้น โชคดีได้พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือจนปลอดภัย ต่อมา ตำรวจสภ. ปากเกร็ด ทำการสืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุเป็นหญิงสาวพักอยู่ชั้น 21 แต่หญิงสาวต้องสงสัยเข้าให้ปากคำพร้อมทั้งปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องราวทั้งหมด
ล่าสุดวันนี้ (21 ต.ค.64) รายงานข่าวจาก เดลินิวส์ ระบุ ที่คอนโดลุมพินี ห้าแยกปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้มีการลงพื้นที่เพื่อจำลองเหตุการณ์ โดยนายสอง ช่างทาสีซึ่งถูกตัดเชือก กล่าวว่า ยังรู้สึกหวาดกลัวมากและไม่อยากมาจำลองเหตุการณ์วันนี้เลย
แต่ต้องทำเพราะเป็นความต้องการของเจ้าหน้าที่ ทางบ้านทราบข่าวก็บอกระมัดระวังให้มากเวลาทำงาน เมื่อถูกถามว่าจะทำงานด้านนี้ต่อหรือไม่ เจ้าตัวยอมรับว่าคงจะทำหน้าที่นี้ต่อไปเพราะยึดอาชีพนี้มาหลายปีแล้ว แต่กลับไปรอบนี้คงต้องมีคนเฝ้าเชือก ส่วนเรื่องคดีหากตำรวจจับคนที่ตัดเชือกได้ ตนก็อยากจะถามว่า ทำไปทำไม เพราะตนเองทำงานก็ไม่เคยไปคุกคามใคร
เบื้องต้นในส่วนของคดี ตำรวจเตรียมเอาผิดผู้ก่อเหตุในข้อหาทำให้เสียทรัพย์และพยายามฆ่า โดยหลังจากได้มีการส่งเชือกของกลางไปตรวจหาลายนิ้วมือแล้ว ทางตำรวจเผยว่า ผลการตรวจ ดีเอ็นเอ ที่เชื่อมโยงผู้ต้องสงสัยนั้นออกมาแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ อย่างไรก็ตามหลักฐานที่มีอยู่นั้นแน่นหนาพอที่จะดำเนินคดีกับผู้ต้องสงสัยรายนี้ได้อย่างแน่นอน โดยขณะเดียวกันมีรายงานเพิ่มเติมว่า ทางญาติของหญิงสาวผู้ต้องสงสัยได้เดินทางมารับตัวไปอยู่ที่อื่นเรียบร้อยแล้ว
เรียกสอบพยานคดี สจ.ดำ ฆ่ายกครัว 4 ศพ เบื้องต้นไม่พบคนนอกเข้าไปในบ้าน
เรียกสอบพยานคดี สจ.ดำ ธวัชชัย ทองอ่อน ยิงยกครัว 4 ศพ เบื้องต้นให้น้ำหนักปัญหาหนี้สิน เรื่องส่วนตัว ตรวจสอบไม่พบคนนอกเข้าไปในบ้านที่เกิดเหตุ จากกรณีที่ นายธวัชชัย ทองอ่อน หรือ สจ.ดำ อดีต ส.จ.นครศรีธรรมราช ก่อเหตุปลิดชีพตัวเองและครอบครัวรวม 4 ศพ ภายในทาวน์โฮม 3 ชั้น ย่านกรุงเทพกรีฑา กทม. ล่าสุดวันนี้ (11 พ.ย.2564) พ.ต.อ.จักรเพชร เพชรพลอยนิล รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 เปิดเผยแนวทางการสอบสวนคดี โดยพนักงานสอบสวนจะเรียกสอบพยานที่เป็นเพื่อนบ้าน และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน มาสอบสวนถึงหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา (10 พ.ย.) ได้สอบสวนบุคคลใกล้ชิด เช่น น้องชายและแม่ของผู้เสียชีวิต
พ.ต.อ.จักรเพชร กล่าวว่า พนักงานสอบสวนให้น้ำหนักเหตุการณ์ไปที่ประเด็นส่วนตัว ปัญหาหนี้สินของผู้เสียชีวิต แต่ยืนยันว่ายังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง เนื่องจากยังมีพยานอีกหลายปากที่ต้องเรียกเข้าไปสอบสวน โดยเฉพาะคนใกล้ชิดกับผู้เสียชีวิต
ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ เชื่อว่าไม่มีบุคคลภายนอกเข้าไปลงมือ เนื่องจากตำรวจเข้าตรวจสอบทันทีหลังได้รับแจ้งว่ามีเสียงปืนดังขึ้นในบ้าน และพบว่าตัวบ้านมีการล็อกประตูแน่นหนาทุกทาง ตำรวจจึงได้ขอบ้านข้างเคียงดูบริเวณชั้นบนก่อนพบร่างผู้เสียชีวิต จากนั้นจึงตัดสินใจงัดประตูบ้านเข้าไป และจากการตรวจสอบไม่พบบุคคลอื่น สำหรับคดีนี้ พ.ต.อ.จักรเพชร ระบุว่า เป็นคดีละเอียดอ่อน กระทบกับบุคคลหลายฝ่าย จึงต้องสอบสวนอย่างรอบคอบเพื่อให้เกิดความชัดเจน ก่อนสรุปข้อเท็จจริง
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป