ข่าวทำเนียบรัฐบาล รายงาน นางสาวสุชาดา แทนทรัพย์ โฆษกประจำกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากข้อมูลกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 21 พ.ย. 62 มีผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการและขยายกิจการรวม 3,950 แห่ง มีการจ้างงานใหม่ 178,733 คน และมูลค่าลงทุนรวม 445,025 ล้านบาท โดยอุตสาหกรรม 5 อันดับแรกที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการสูงสุด ประกอบด้วย กลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร 490 โรงงาน มีการจ้างงานใหม่ 33,971 คน มูลค่าการลงทุน 52,033 ล้านบาท รองลงมาเป็นกลุ่มพลาสติก 425 โรงงาน จ้างงานใหม่ 15,735 คน วงเงินลงทุน 23,351 ล้านบาท, กลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วน 340 โรงงาน จ้างงานใหม่ 15,015 คน วงเงินลงทุน 27,547 ล้านบาท, กลุ่มผลิตภัณฑ์โลหะ 327 โรงงาน จ้างงานใหม่ 10,339 คน วงเงินลงทุน 87,631 ล้านบาท และ กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า 92 โรงงาน จ้างงานใหม่ 19,819 คน วงเงินลงทุน 30,322 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในส่วนของมูลค่าการลงทุนของโรงงานที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการและขยายกิจการสูงถึง 445,025 ล้านบาท
เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 37.94% ซึ่งถือเป็นมูลค่าที่สูงมาก แสดงให้เห็นว่านักลงทุนมีความเชื่อมั่นประเทศไทย และเชื่อมั่นนโยบายของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่ผลักดันส่งเสริมการลงทุนในด้านต่าง ๆ รวมถึงการนำผู้บริหารจากหน่วยงานต่าง ๆ โรดโชว์เชิญชวนนักลงทุนในต่างประเทศอยู่เสมอ แม้ว่าทั่วโลกจะอยู่ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวก็ตาม โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการลงทุนสูงจะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการสร้างมูลค่าเพิ่ม และมีเทคโนโลยีที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่รัฐบาลให้การส่งเสริม และหากโรงงานเริ่มประกอบกิจการก็จะส่งผลให้การผลิตสินค้าอุตสาหกรรมในไทยเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน
“แม้ทั่วโลกจะเกิดภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวแต่นักลงทุนก็ยังลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นนโยบายของรัฐบาล ขณะเดียวกันในส่วนของการจ้างงานใหม่เพิ่ม 178,733 คน แบ่งเป็นผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการใหม่ 2,975 โรงงาน มีการจ้างแรงงานใหม่ 87,748 คน และโรงงานเดิมที่มีการขยายกิจการอีก 90,985 คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าโรงงานขอปิดกิจการที่มีจำนวน 1,480 โรงงาน และการเลิกจ้างงานที่มีกว่า 37,263 คน หรือความต้องการแรงงานใหม่ในภาคอุตสาหกรรมมากกว่าแรงงานที่ถูกเลิกจ้างถึง 141,470 คน ดังนั้นขอให้แรงงานใหม่และผู้ที่ว่างงาน มั่นใจว่าโรงงานที่เปิดใหม่ และโรงงานเดิมที่ขยายกิจการจะสามารถรองรับแรงงานที่ต้องการทำงานได้อีกจำนวนมาก” โฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าว
นางสาวสุชาดา กล่าวต่อว่า จากข้อมูลตัวเลขสถานการณ์เปิดโรงงานใหม่ การปิดกิจการ และการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมของกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) นั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตัวเลขการลงทุนที่เป็นไปในทิศทางที่สูงขึ้น จากจำนวนการเปิดโรงงานใหม่ที่มีมากกว่าการปิดกิจการโรงงานสูงถึง 101% และเงินลงทุนในปี2562 ที่มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 37.94 %
ขณะเดียวกัน ทางด้านสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.)
ได้วิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรมในปัจจุบันพบว่า ภาคอุตาสหกรรมได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกขยายตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์, การส่งออกปรับตัวลดลงต่อเนื่อง, การบริโภคในประเทศเริ่มชะลอตัวมาตั้งแต่เดือนพ.ค. 62 และผู้ส่งออกได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของค่าเงินบาท ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีแนวทาง และมาตรการที่เร่งด่วนทั้งระยะสั้นและระยะกลาง เพื่อกระตุ้นภาคอุตสาหกรรมไทย โดยระยะสั้นเร่งด่วน 4 ด้าน คือภาครัฐต้องเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ, การกำหนดสัดส่วนการใช้วัตถุดิบในประเทศสำหรับโครงการภาครัฐ, การเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากเศรษฐกิจ, การดูแลสถานการณ์ค่าเงินเพื่อให้สินค้าและบริการของไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลก
ส่วนมาตรการระยะกลางที่จะช่วยเพิ่มเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของไทยแบ่งออกเป็น 6 ด้านประกอบด้วย 1.การเร่งผลักดันการลงทุนในอุตสาหกรรมศักยภาพ (S-Curve) 2.การเร่งส่งเสริมพัฒนาอุตสาหกรรมไทยที่มีศักยภาพ เช่น Bio Economy และ Circular Economy เป็นต้น 3.การยกระดับเทคโนโลยีและนวัตกรรมรวมถึงการใช้ระบบอัตโนมัติในการผลิต เพื่อเพิ่มผลิตภาพและขีดความสามารถ 4.การพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน เพื่อรองรับอุตสาหกรรมใหม่และบรรเทาการว่างงาน 5.มาตรการจูงใจให้ผู้ได้รับอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนเริ่มลงทุนจริงในปี63 และ 6.ผู้ประกอบการปรับตัวโดยการเพิ่มผลิตภาพ ลดค่าใช้จ่าย และควรพิจารณาเพิ่มการลงทุนในกรณีที่มีสภาพคล่อง อีกด้วย
แกร็บจะสนับสนุนให้พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ สามารถเข้าเรียนหลักสูตรพัฒนาทักษะออนไลน์ของไมโครซอฟท์ได้ผ่านแอปพลิเคชันแกร็บ โดยจะสามารถเรียนคอร์สพื้นฐาน เช่นความรู้พื้นฐานด้านคอมพิวเตอร์ การใช้อินเทอร์เน็ตและซอฟต์แวร์ต่างๆ ที่ช่วยให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น หลังจากจบแล้ว จะได้รับประกาศนียบัตรจากไมโครซอฟท์โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
โดยจะเริ่มเปิดตัวด้วยภาษาอังกฤษในแกร็บอะคาเดมี่ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอบรมออนไลน์ในแอปพลิเคชันแกร็บ ก่อนที่จะเปิดตัวภาษาอื่นๆ ปีหน้า
ไมโครซอฟท์และแกร็บจะร่วมมือกับมูลนิธิอาเซียน (ASEAN Foundation) และศูนย์การเรียนรู้ Empire Code เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคน โดยเฉพาะบุตรและคู่สมรสของพาร์ทเนอร์แกร็บ ในการเข้าถึงการศึกษาคอมพิวเตอร์ที่ครอบคลุมผ่านแพลตฟอร์มFutureReadyASEAN
โดยเธอต้องพบกับเหตุการณ์ลักษณะนี้ตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค., 2 พ.ย. และ 12 ธ.ค. ที่ผ่านมา จนเธอทนไม่ไหวและหนีกลับไปหาพ่อแม่ในวันที่ 13 ธ.ค. หลังจากนั้น เธอก็เข้าแจ้งความกับตำรวจ และเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมา มักจะตกเป็นเหยื่อความรุนแรงของสามีเสมอ เพราะเธอไม่สามารถมีลูกได้
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป